บทความ

เมื่อเราเหงา...จงเดินเข้าป่า(2)

รูปภาพ
                             หลังจากที่พอได้พักฟื้นทั้งแรงกายและแรงใจได้พอสมควร  ก็ยันร่างกายกับสัมภาระที่แบกมา ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง  มองออกไปรอบตัว เพื่อให้มันคุ้นสายตา รวมถึงการสำรวจพื้นที่บริเวณรอบ ๆ อีกครั้ง  สูดลมหายใจเข้าออก อีกที แล้วก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ                 แต่การเดินครั้งนี้คงจะไม่ได้เพลิดเพลินเหมือนครั้งแรกตอนเข้ามา ทุกฝีก้าวเดินไปอย่างรอบคอบ สติตั้งมั่นไม่วอกแวก จดจ่อไปไว้ที่ประสาทสัมผัสหูกับตาเป็นหลัก                 เหตุการณ์ทุกอย่างในระหว่างทางมานั้นเป็นปกติไม่มีอะไรให้ตื่น เต้นตกใจ  จนในที่สุด ก็มาถึงทางแยก ให้เลี้ยวเข้าไปทางขวา ซึ่งทางเส้นนี้ ผมจำได้ดี เพราะมันเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่ผมเคยพากลุ่มนักเรียนเข้ามาเดินศึกษาแล้วหลายครั้ง                 แต่ทุกครั้งที่เคยมา กับครั้งนี้ ความรู้สึกมันช่างแตกต่างกันสิ้นเชิง เพราะทุกครั้งที่เคยเข้ามาจะมากันเป็นหมู่คณะ หลายสิบคน  แต่ครั้งนี้ผม ฉายเดี่ยว                 อีกทั้งดูลักษณะภูมิประเทศแล้ว เหมือนว่าคงจะไม่มีกลุ่มคณะใดได้เข้ามาเยี่ยมชมที่นี่สักระยะหนึ่งแล้ว  เพราะดูจากบริเวณปากทางเข้า ที่ทางห

เมื่อเราเหงา...จงเดินเข้าป่า(1)

รูปภาพ
                       ช่วงชีวิตในระยะหลังนี้ผมไม่ได้เข้าป่าอีกเลย แต่หันกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแทน ซึ่งก็ด้วยเหตุผลทางด้านปากท้องและรายได้ จึงต้องขอหันหลังให้ป่าสักพัก            แต่ยิ่งห่างออกมาเท่าไร  จิตใจมันกลับยิ่งคะนึงหา  ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูแล้ง เป็นช่วงที่ป่ากำลังผลัดใบ มันทำให้ผมยิ่งคิดถึงมันยิ่งขึ้น  แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ขอมาเล่าประสบการณ์เล็ก ๆ สำหรับการเดินป่าของผม มันเป็นช่วงเวลาประมาณนี้ ช่วงปลาย ๆ ของฤดูหนาวเกือบย่างเข้าสูฤดูร้อน วันนั้นผมก้าวเข้าสู่เขตป่าอนุรักษ์แห่งหนึ่งซึ่งผมไม่ขอเอ่ยชื่อ เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบกับอีกหลายฝ่าย           ในช่วงแรก ๆ ผมก็เดินถ่ายรูปนก  รูปสัตว์เล็ก ๆ ที่วิ่งกระโจน อยู่ตามต้นไม้ แต่เดินไปเดินมามันก็ชักเพลิน เลยเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ  ซึ่งก็ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางแต่อย่างใด  มันก็เป็นบนเส้นทาง การเดินทางของเจ้าหน้าพิทักษ์ป่าที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ในการลาดตะเวน และขนส่งเสบียงกันนั่นแหละ ผมจึงไม่ได้กังวลถึงอันตรายใดๆ           แต่อย่างไรก็ตาม คำว่าในป่า ไม่ว่ามันเป็นอย่างไร มันก็คือป่า บางครั้งมันอาจจะมีอะไรซ่อ

ครั้งหนึ่งกับการ (พยายาม )เป็น....ช่างภาพสัตว์

รูปภาพ
ก่อนอี่นต้องขอบอกก่อนว่าภาพที่ผมนำมาแสดงนี้ มันเป็นภาพเดียวยังหลงเหลือจากประสบการณ์ที่กำลังจะเล่า เพราะภาพถ่ายส่วนใหญ่ของผมมันได้สูญหายไปหมดจากการเสียหายอย่างรุนแรงของ ฮาร์ดดิสก์ในแบบที่ไม่สามารถจะกู้คืนกลับมาได้ และภาพนี้มันก็เป็นภาพที่ผมได้พิมพ์ไว้เพื่อจัดนิทรรศการส่วนตัว และก็ได้ผ่านการทิ้งไว้อย่างไม่ได้ดูแลรักษานั่นเอง มันมีช่วงหนึ่งที่ผมมีความสนใจในด้านการถ่ายภาพ จึงได้มีการค้นคว้าหาความรู้ด้านการถ่ายภาพ โดยเริ่มตั้งแต่พื้นฐานกันเลยทีเดียวเพราะผมไม่เคยใช้กล้องถ่ายรูปมาก่อนอย่างมากก็กล้องคอมแพ็คเล็กๆสมัยกล้องฟิล์มที่ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมาก แค่ส่องแล้วกดชัตเตอร์ พอเริ่มจะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว ว่าการเลือกกล้องต้องเลือกอย่างไหน ยี่ห้อไหนเป็นอย่างไร ใช้รูรับแสงแค่ไหน ความเร็วชัตเตอร์เท่าไหร่ ระยะเลนส์เท่าใดและอีกมากมายที่ควรรู้เกี่ยวกับกล้อง พอเริ่มที่จะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว ก็เลยไปจัดหาซื้อ DSLR พร้อมเลนส์ Kit ติดกล้อง มาหนึ่งชุด เริ่มแรกก็หาถ่ายอะไรทั่ว ๆ ไป ยังจับจุดไม่ได้สักที และที่สำคัญมันก็ยังไม่สวยสักทีเมื่อนำมาเทียบกับภาพของคนอื่นเขา ในช่วงระยะนี้เองที่ผมได้มีโอกาส

อิ่มใจที่....ไซเบอร์

รูปภาพ
อิ่มใจที่....ไซเบอร์                 หากคุณต้องการสัมผัสกับธรรมชาติอันพิสุทธิ์ ที่จะทำให้คุณสูดลมหายใจได้เต็มปอด และอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯแล้วละก็ “น้ำตกไซเบอร์” เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่คุณควรจะไป                 น้ำตกไซเบอร์ตั้งอยู่ที่ อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี อยู่ในความดูแลของหน่วยพิทักษ์ป่าไซเบอร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ผืนป่ามรดกโลกแห่งแรกของไทยเรา                 หลายคนอาจจะสงสัยว่า ในพื้นที่ป่าอย่างนี้ทำไมถึงมีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษ แถมยังมีความหมายออกไปทางเทคโนโลยีสมัยใหม่อะไรอย่างนี้  ซึ่งความสงสัยนี้ผมก็ได้ไปสืบหาที่มาของชื่อนี้มาให้หายสงสัยกัน                 ความจริงคำว่า “ไซเบอร์” มันเพี้ยนมาจากคำว่า “ไม้เบอร์ “ ซึ่งเป็นชื่อเรียกภาษากะเหรี่ยง ซึ่งมีที่มาจากต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งเป็นต้นไม้สูงใหญ่ และมักจะมีรังผึ้งชอบไปทำรังอยู่ตามกิ่งไม้ต้นนั้น และก็มีชายคนหนึ่ง แกก็มักจะชอบไปตีรังผึ้งบนต้นไม้ต้นนี้ จนบ่อย ๆ เข้าชาวบ้านแถวนั้นก็ยกสัมปทานการตีผึ้งจากต้นไม้ต้นนั้นให้เป็นของแกคนเดียว พร้อมกับให้สมญานามพื้นที่ในละแวกรอบ ๆ นั้นตามชื่อ

เจ้าจันท์ผมหอม วรรณกรรมอีกเรื่องที่น่าอ่าน

รูปภาพ
ก่อนอื่นที่จะเข้าเนื้อหาต้องขอขอบคุณ ผู้ประพันธ์เพลงนี้ ผู้ขับร้องและผู้เผยแพร่คลิปวีดีโอเพลงนี้ก่อนเลยนะครับ เจ้าจันท์ผมหอม   : นิราศพระธาตุอินทร์แขวน วรรณกรรม ซีไรต์ เมื่อปี 2534 ซึ่งประพันธ์โดย มาลาคำจันทร์   นักเขียนผู้สร้างสรรค์งานวรรณกรรมอันทรงคุณภาพไว้หลาย ๆ เล่ม อย่างเช่น หุบเขากินคน  เขี้ยวเสือไฟ เป็นต้น ครั้งแรกที่ผมได้หนังสือเล่มนี้มา ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเรื่องราวของเรื่องนี้หรอกครับ เพียงแต่เห็นว่าได้รับรางวัล ซีไรต์ เลยอย่างอ่าน  และครั้งแรกที่เปิดอ่าน บอกเลยอ่านไม่เกิน 2 หน้าครับ เพราะ ลักษณะของการเล่าเรื่องนั้นมันดูคล้าย ๆ เป็นบทกวี ซึ่งผมก็ไม่ค่อยถนัดนักที่จะอ่านและถอดความกวี อีกทั้งยังใช้ภาษาส่วนใหญ่ออกไปทาง ล้านนา ผมยิ่งงงไปใหญ่ ผมจึงวางหนังสือเล่มนี้ลง หลายวันต่อมาก็ลองหยิบมาอ่านอีก ก็เหมือนเดิมครับ อ่านไม่ได้มากไปกว่าเก่าและก็วางเก็บไว้ ซึ่งผมได้ทำอย่างนี้อยู่หลายครั้งและในที่สุดผมก็ลืมมันไป นานหลายปีเหมือนกัน ผมกลับมารื้อกองหนังสือเก่า ๆ ของผมที่ได้ทับ ๆ กันกองไว้ และก็ได้กลับมาพบกับมันอีกครั้ง ความค้างคาใจกับหนังสือเล่มนี้ก็ผุดขึ้นมาผมจึงหยิบ

ครั้งแรกเมื่อผมไปลาว

รูปภาพ
ครั้งแรกเมื่อผมไปลาว เมื่อราว ๆ 4 ปีที่แล้วผมได้มีโอกาสไปทำงานที่จังหวัดเพชรบูรณ์  มันเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งก็เป็นช่วงเริ่มต้นแห่งฤดูหนาวพอดี  เป็นโอกาสอันเหมาะเลยทีเดียวที่จะได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศแห่ง เมฆหมอกและลมหนาวได้อย่างใกล้ชิดและไม่ต้องห่วงว่าจะต้องรีบกลับ เพราะว่าผมได้อยู่ยาว อย่างต่ำ ๆ ก็คงจะหมด ฤดูหนาวนั่นแหละ มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผมที่เมื่อไปอยู่ที่ใดแล้ว ก่อนจะทำอะไรควรสำรวจพื้นที่ที่ไปอยู่ใหม่นั้นเสียก่อน  พอไปถึงเพชรบูรณ์หาที่พักเรียบร้อย นอน.....พอเช้ามาตื่นตั้งแต่ตี 4 อาบน้ำอาบท่า ขึ้นเขาค้อเลยเป็นที่แรก ไปก็ไปอย่างสุ่ม ๆ ไปตามป้ายบอกทาง พอขึ้นเขาค้อได้ ตรงไหนวิวสวย ก็จอดแวะถ่ายรูป  ขับรถเปิดกระจกไปเรื่อย ๆ พอประมาณ 9 โมงเช้าได้ก็ไปสะดุด ที่ที่ ๆ หนึ่ง เห็นมีรถจอดอยู่หลายคันก็เลยลงจอดดูบ้าง  อ๋อ มันคือทะเลหมอกนั่นเอง เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกกับตา  มันช่างสวยงามมาก และอยากจะกระโดดลงไปแวกว่ายเล่นให้เหมือนกับทะเลสีคราม … แต่มันคงจะไม่ดีแน่ จากนั้นมาผมก็เริ่มงานและได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งก็เป็นคนในพื้นที่บ้างหรืออย