เจ้าจันท์ผมหอม วรรณกรรมอีกเรื่องที่น่าอ่าน


ก่อนอื่นที่จะเข้าเนื้อหาต้องขอขอบคุณ ผู้ประพันธ์เพลงนี้ ผู้ขับร้องและผู้เผยแพร่คลิปวีดีโอเพลงนี้ก่อนเลยนะครับ
เจ้าจันท์ผมหอม  : นิราศพระธาตุอินทร์แขวน วรรณกรรม ซีไรต์ เมื่อปี 2534 ซึ่งประพันธ์โดย มาลาคำจันทร์  นักเขียนผู้สร้างสรรค์งานวรรณกรรมอันทรงคุณภาพไว้หลาย ๆ เล่ม อย่างเช่น หุบเขากินคน  เขี้ยวเสือไฟ เป็นต้น
ครั้งแรกที่ผมได้หนังสือเล่มนี้มา ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเรื่องราวของเรื่องนี้หรอกครับ เพียงแต่เห็นว่าได้รับรางวัล ซีไรต์ เลยอย่างอ่าน  และครั้งแรกที่เปิดอ่าน บอกเลยอ่านไม่เกิน 2 หน้าครับ เพราะ ลักษณะของการเล่าเรื่องนั้นมันดูคล้าย ๆ เป็นบทกวี ซึ่งผมก็ไม่ค่อยถนัดนักที่จะอ่านและถอดความกวี อีกทั้งยังใช้ภาษาส่วนใหญ่ออกไปทาง ล้านนา ผมยิ่งงงไปใหญ่ ผมจึงวางหนังสือเล่มนี้ลง หลายวันต่อมาก็ลองหยิบมาอ่านอีก ก็เหมือนเดิมครับ อ่านไม่ได้มากไปกว่าเก่าและก็วางเก็บไว้ ซึ่งผมได้ทำอย่างนี้อยู่หลายครั้งและในที่สุดผมก็ลืมมันไป
นานหลายปีเหมือนกัน ผมกลับมารื้อกองหนังสือเก่า ๆ ของผมที่ได้ทับ ๆ กันกองไว้ และก็ได้กลับมาพบกับมันอีกครั้ง ความค้างคาใจกับหนังสือเล่มนี้ก็ผุดขึ้นมาผมจึงหยิบมันมาอีกครั้ง
ในกลางสวนของผม ผมมีกระท่อมหลังหนึ่ง  ผมเอนตัวนอนลง หนุนหมอนในกระท่อมนั้น กับวันสบาย ๆ  อากาศดี ๆ ผมก็ได้เปิดมันอ่าน ด้วยจิตใจที่ว่าง ไม่ได้คิดอะไร  ผมอ่านมันได้มากขึ้น ผมอ่านไปอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ เสพภาษาและสำนวนการประพันธ์ของผู้แต่ง ในที่สุดผมก็ผมก็หลงใหลมันเข้าแล้ว และก็อ่านมันจบในที่สุด อีกทั้งยังวนอ่านซ้ำ ๆ ในบางบท บางตอนอีกนับไม่ถ้วน
พล็อตเรื่องของวรรณกรรมเรื่องนี้ ก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็เป็นเรื่องของเจ้าหญิงผู้มีศักดิ์ต้องจำใจพลัดพรากจากคนที่เธอรักด้วยสถานการณ์ต่างๆ มันบีบบังคับ และต้องยอมตกลงปลงใจที่จะไปแต่งงานกับผู้ชายที่เป็นใครซึ่งตนก็ยังหาต้นปลายสายตระกูลไม่แน่ชัด อีกทั้งยังเคยมีเมียแล้วอีกด้วย
แต่เสน่ห์ของเรื่องนี้มันอยู่ที่รายละเอียดของเนื้อเรื่องที่ได้สอดแทรกเรื่องราวในด้านต่างๆ  ไว้หลายมิติมาก ทั้งด้านสังคม  วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ การเมือง ความเชื่อ และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกมาก ที่เชื่อมโยงเกี่ยวร้อยกันอย่างลงตัวที่สุด (ซึ่งผมว่า ท่านมาลาคำจันทร์  ท่านได้สร้างานลักษณะนี้ไว้หลายเรื่อง)  ในส่วนตัวแล้วเห็นว่า หากมีผู้ใดนำประเด็นต่าง ๆ ในเรื่องนี้มาขยายความ คงจะได้หนังสืออีกหลาย เล่มเลยล่ะ
แต่ที่ผมชอบที่สุดคือเทคนิคในเล่าเรื่องในลักษณะของความขัดแย้งกัน  โดยการสร้างภาพลักษณ์ของตัวละครเอกของเรื่อง คือ พ่อเลี้ยง ที่แทบจะตลอดทั้งเรื่องหรือตั้งแต่ต้นจนจบเลยก็ว่าที่ได้  ว่าเป็นตัวโกง ทั้งรูปลักษณ์และพฤติกรรม  แต่ในช่วงระหว่างสถานการณ์นั้นก็ได้แอบก่อกองไฟกองเล็กๆ ขึ้นมาและค่อย ๆ เติมเชื้อไฟไปทีละน้อย ทีละน้อย ที่พอจะทำให้ประกายทองที่ได้แอบซ่อนอยู่ในตัวของพ่อเลี้ยงนั้นได้เปล่งขึ้น  แม้จะไม่มีใครเห็น แต่เชื่อเถอะว่า มันได้ไปปรากฏอยู่ในใจของ เจ้าจันท์บ้างแล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าจันท์ จะยังไม่ได้รักในตัวพ่อเลี้ยง แต่ก็คงไม่ได้รังเกียจดังแต่ก่อน  มันไม่ใช่โศกนาฏกรรมทางความรักเสียทีเดียวหรอก  แต่ทั้งหมดทั้งมวลของเรื่องนี้ มันคือสัจจะธรรมความเป็นจริงในโลกแห่งปุถุชน
ท้ายนี้ขอบอกเลยว่า เจ้าจันท์ผมหอม คือวรรณกรรมที่น่าหามาอ่านหรือมีประดับไว้ในชั้นหนังสือของเรา


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ครั้งแรกเมื่อผมไปลาว

ครั้งหนึ่งกับการ (พยายาม )เป็น....ช่างภาพสัตว์